Dynamic Pricing กลยุทธ์ AI กำหนดราคาและโปรโมชั่นที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

September 25, 2025
Guitar
เขียนโดย
Guitar
Dynamic Pricing กลยุทธ์ AI กำหนดราคาและโปรโมชั่นที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมราคาตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรมที่คุณเห็นในวันนี้ ถึงอาจไม่เท่ากับราคาที่เพื่อนของคุณเห็นเมื่อชั่วโมงที่แล้ว? ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่เรียกว่า "Dynamic Pricing" หรือ "การกำหนดราคาแบบพลวัต" ซึ่งเป็นการตั้งราคาที่ไม่คงที่ แต่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาตามปัจจัยต่างๆ แบบเรียลไทม์ และในปัจจุบัน ด้วยความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลยุทธ์ที่ซับซ้อนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกต่อไป แต่ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมฟินเทค (Fintech) และกำลังเปลี่ยนนิยามของ "ราคา" และ "โปรโมชั่น" ไปอย่างสิ้นเชิง

แนวคิดของการนำเสนอราคาที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละบุคคลไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ Dynamic Pricing ในยุคนี้ทรงพลังกว่าที่เคย คือความสามารถของ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลเพื่อสร้างข้อเสนอที่ "เฉพาะตัว" (Personalized) ได้ในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน บทความนี้จะเจาะลึกว่า Dynamic Pricing คืออะไร, AI เข้ามามีบทบาทอย่างไร, กรณีศึกษาการนำไปใช้ในโลกฟินเทค และประเด็นท้าทายด้านจริยธรรมที่ทุกแบรนด์ต้องพิจารณา

Dynamic Pricing คืออะไร? และ AI เข้ามามีบทบาทอย่างไร?

โดยพื้นฐานแล้ว เราสามารถแบ่งวิธีการกำหนดราคาได้สองรูปแบบคือ Static Pricing (ราคาคงที่) ซึ่งเป็นราคาเดียวสำหรับลูกค้าทุกคน เช่น ราคากาแฟในร้านที่คุณซื้อเป็นประจำ และ Dynamic Pricing (ราคาพลวัต) ที่ราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น อุปสงค์-อุปทาน, ช่วงเวลา, หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละราย

ในอดีต การทำ Dynamic Pricing อาจอิงตามปัจจัยมหภาค แต่ AI ได้ยกระดับกลยุทธ์นี้ขึ้นไปอีกขั้น โดยทำหน้าที่เป็น "สมอง" ที่ชาญฉลาดเบื้องหลังการกำหนดราคาในระดับบุคคลผ่าน 3 ขั้นตอนหลัก:

  • การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล (Data Collection & Analysis): AI สามารถประมวลผลข้อมูลที่หลากหลายและซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภายใน เช่น ประวัติการทำธุรกรรม, ความภักดีต่อแบรนด์ (Loyalty), พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชัน ไปจนถึงข้อมูลภายนอก เช่น สภาวะตลาด, อัตราดอกเบี้ยกลาง, หรือข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย
  • การสร้างโมเดลทำนาย (Predictive Modeling): หัวใจสำคัญคือการใช้ Machine Learning สร้างโมเดลเพื่อทำนายปัจจัยสำคัญของลูกค้าแต่ละราย เช่น "ความเต็มใจที่จะจ่าย" (Willingness to Pay) สำหรับบริการเสริม หรือ "โปรไฟล์ความเสี่ยง" (Risk Profile) สำหรับการขอสินเชื่อ ซึ่งทำให้สามารถคำนวณราคาหรือข้อเสนอที่เหมาะสมที่สุดได้
  • การปรับเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ (Real-time Adjustment): AI สามารถปรับเปลี่ยนราคา, อัตราดอกเบี้ย, หรือโปรโมชั่นที่แสดงผลต่อลูกค้าแต่ละรายได้ทันทีที่มีข้อมูลใหม่เข้ามา ทำให้ข้อเสนอมีความสดใหม่และสอดคล้องกับสถานการณ์ ณ เวลานั้นๆ มากที่สุด
InsurTech

กรณีศึกษา: การใช้ Dynamic Pricing ในโลก Fintech

AI ได้เปิดประตูให้ธุรกิจฟินเทคสามารถนำกลยุทธ์ Dynamic Pricing ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและนำเสนอคุณค่าที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น

  • ด้านสินเชื่อ (Lending Tech): อัตราดอกเบี้ยส่วนบุคคลแทนที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานตามประเภทสินเชื่อ แพลตฟอร์มสินเชื่อสมัยใหม่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลหลายมิติของผู้กู้ (นอกเหนือจากแค่ข้อมูลเครดิตบูโร) เช่น รูปแบบการใช้จ่าย, ความมั่นคงของรายได้, และพฤติกรรมทางการเงินอื่นๆ เพื่อประเมินความเสี่ยงได้อย่างละเอียดและเสนอ อัตราดอกเบี้ย ที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้กู้แต่ละรายโดยเฉพาะ ผลลัพธ์คือ ผู้กู้ที่มีความเสี่ยงต่ำจะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า ในขณะที่ผู้ให้กู้ก็สามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ด้านประกัน (InsurTech): เบี้ยประกันตามการใช้งานนี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของ Dynamic Pricing ในวงการประกัน หรือที่เรียกว่า Usage-Based Insurance (UBI) บริษัทประกันจะใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์เซ็นเซอร์ (Telematics) ที่ติดตั้งในรถยนต์หรือผ่านแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ เช่น ความเร็ว, ระยะทาง, การเบรกกะทันหัน จากนั้น AI จะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และคำนวณเบี้ยประกันที่สะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริงของแต่ละบุคคล เกิดเป็นแนวคิด "ขับดี จ่ายถูก"
  • ด้านการชำระเงิน (Payments) และ E-Wallets: โปรโมชั่นที่แตกต่างแพลตฟอร์ม E-Wallet ใช้ AI เพื่อมอบ โปรโมชั่นส่วนบุคคล ที่แตกต่างกันไป ผู้ใช้งานที่มียอดใช้จ่ายสูงอาจได้รับ Cashback ในอัตราที่สูงกว่า ในขณะที่ผู้ใช้ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวบัญชีมาสักระยะ อาจได้รับคูปองส่วนลดพิเศษเพื่อกระตุ้นให้กลับมาใช้งานอีกครั้ง กลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) และรักษาฐานลูกค้าได้อย่างตรงจุด

ดาบสองคม: ความท้าทายและประเด็นด้านจริยธรรม

แม้ว่า Dynamic Pricing จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบและประเด็นอ่อนไหวที่ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง เพราะหากนำไปใช้อย่างไม่โปร่งใส อาจสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีต่อแบรนด์และทำลายความไว้วางใจของลูกค้าได้

  • การเลือกปฏิบัติทางราคา (Price Discrimination): เส้นแบ่งระหว่าง "Personalization" และ "Discrimination" นั้นบางมาก การตั้งราคาที่สูงกว่าสำหรับลูกค้าบางกลุ่มโดยอาศัยข้อมูลที่พวกเขาควบคุมไม่ได้ อาจถูกมองว่าเป็นการเอาเปรียบและไม่เป็นธรรม
  • ความโปร่งใส (Transparency): ลูกค้าอาจเกิดความสับสนและไม่พอใจ หากไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนเองจึงได้รับราคาหรือข้อเสนอที่แตกต่างจากผู้อื่น การขาดคำอธิบายที่ชัดเจนอาจนำไปสู่ความรู้สึกว่าถูก "เล่นกล" กับราคา
  • ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Data Privacy): กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากเพื่อความแม่นยำ ดังนั้น การปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และการขอความยินยอมจากลูกค้าอย่างชัดเจนจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้
  • อคติใน AI (Bias in AI): หากข้อมูลที่ใช้ฝึกฝนโมเดล AI มีอคติแฝงอยู่ตั้งแต่ต้น ก็อาจส่งผลให้ AI ตัดสินใจอย่างมีอคติไปด้วย เช่น การเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าให้กับคนบางกลุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ

บทสรุป: จาก "ราคาเดียว" สู่ "คุณค่าที่เหมาะสม"

Dynamic Pricing ที่ขับเคลื่อนด้วย AI คือวิวัฒนาการของการตลาดที่เปลี่ยนจากการนำเสนอ "ราคาเดียวสำหรับทุกคน" ไปสู่การนำเสนอ "คุณค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละคน" มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทฟินเทคสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันได้อย่างแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้

อย่างไรก็ตาม พลังอันมหาศาลนี้ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ อนาคตของ การกำหนดราคา ในโลกฟินเทคจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของอัลกอริทึมเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของแบรนด์ในการสร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่าง "Personalization" ที่ลูกค้าปรารถนา และ "Fairness" ที่สังคมคาดหวัง

contact-us
พูดคุย รับคำปรึกษา จากทีมงานของเราได้ฟรี!
(ตอบกลับภายใน 1 ชั่วโมง)
1. รับฟังปัญหาและความจำเป็นทางธุรกิจของคุณ
2. นำเสนอแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุม
3. ดำเนินขั้นตอนการตลาดพร้อมเริ่มผลลัพธ์ใน 24 ชั่วโมง
4. วัดผลแคมเปญและปรับปรุงต่อเนื่อง
contact-us