รู้จักกับ SEO Marketing กลยุทธ์นำเพชรในตมออกมาสู่มือคุณ

May 8, 2025
เขียนโดย
รู้จักกับ SEO Marketing กลยุทธ์นำเพชรในตมออกมาสู่มือคุณ

“ร้านเรามีแต่ของดีมีคุณภาพ แต่ทำไมกลับไม่แมสเลย?”

“ลงทุนทำแบรนด์ปังขนาดนี้ แต่ทำไมถึงไม่มีลูกค้าเลยนะ?”

“ต้องทำยังไงให้ร้านของเราเป็นที่รู้จักมากกว่านี้?”

และอีกมากมายหลายคำถามที่นักธุรกิจต้องประสบพบเจอ

“แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จัก”

เป็นปัญหาที่นักธุรกิจทั่วโลกสามารถเผชิญได้ โดยเฉพาะธุรกิจหน้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว เริ่มต้นทำธุรกิจ ราวกับของขวัญชิ้นใหม่ที่เพิ่งถูกแกะกล่อง ทำให้น้อยคนที่จะรู้จัก เพราะมันอาจจะยัง ใหม่ และ ไม่สะดุดตามากพอ

แล้วควรทำอย่างไรให้ของขวัญชิ้นนั้นเป็นที่สะดุดตาได้?

ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ การที่ธุรกิจจะโดดเด่นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้การตลาดดิจิทัลรูปแบบต่าง ๆ เข้าช่วย

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า SEO หรือชื่อเต็มว่า Search Engine Optimization ซึ่งในภาษาไทยเรียกว่า “การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา”

แต่เมื่อคำว่า SEO มาผสานกับคำว่า "Marketing" จึงหมายถึง การวางกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ SEO เป็นแกนหลักในการเพิ่มยอดขาย สร้างแบรนด์ และเพิ่มอัตราการเติบโต ตอบโจทย์เหล่านักธุรกิจยุคใหม่ทั้งหลายที่ต้องการต่อยอดแบรนด์ของตัวเอง

SEO Marketing กลยุทธ์นำเพชรในตมออกมาสู่มือคุณ

ลองนึกภาพว่าหากเปิดร้านกาแฟที่อร่อยที่สุดในเมือง แต่ไม่มีใครรู้จักร้านของคุณเลย เพราะมันอยู่ในซอยลึก ๆ แบบนั้นก็คงจะน่าเสียดายมากใช่ไหม?

มีของดีแต่ไม่ถูกค้นพบ หากเทียบกับสำนวนไทยคงเปรียบเสมือน เพชรในตม

SEO Marketing ก็คือกลยุทธ์ที่จะนำเพชรนั้นออกมาจากตมให้คุณนั่นเอง

อธิบายง่าย ๆ ก็คือการทำให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรก Google

เมื่อลูกค้าค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา เช่น ขายกาแฟดริป → ถ้าเว็บไซต์คุณขึ้นอันดับ 1-3 โอกาสที่ลูกค้าจะคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ก็จะสูงมาก

หรือตัวอย่างเช่น เมื่อมีคนค้นหาคำว่า “กาแฟดริป” บน Google เว็บไซต์ที่ได้รับการทำ SEO Marketing อย่างเหมาะสมอาจจะปรากฏอยู่ในผลการค้นหาอันดับต้นๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะคลิกเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้น

ยิ่งเว็บไซต์เหล่านั้นมีการทำ SEO Marketing ที่ดี มีประสิทธิภาพมากเท่าไร ก็จะยิ่งดันเว็บไซต์ขึ้นอยู่ในอันดับสูงของผลลัพธ์การค้นหา ช่วยต่อยอดให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก ถูกค้นพบ และต่อเนื่องไปจนถึงการเปิดทางให้ผู้คนเข้ามาติดต่อทำธุรกิจกับแบรนด์ได้อีกด้วย


ความสำคัญของ SEO Marketing กลยุทธ์ที่นักธุรกิจยุคใหม่ควรเรียนรู้

สมมติว่า มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ในเชียงใหม่ ตอนที่ยังไม่มี SEO Marketing ลูกค้าแทบจะไม่รู้จักร้านเลย 

แต่หากร้านเขียนบทความ “5 ร้านกาแฟวิวดีในเชียงใหม่” และบทความติดหน้าแรก Google ร้านก็จะได้รับลูกค้าจากการค้นหาคำว่า “ร้านกาแฟเชียงใหม่” โดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณาเลยแม้แต่น้อย

องค์ประกอบของ SEO Marketing มีครบ รับประกันดันธุรกิจให้ยั่งยืน

การทำ SEO Marketing ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจในองค์ประกอบทั้งทางเทคนิคและการตลาด องค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้การทำให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น

1. การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

เริ่มต้นจากการเข้าใจว่า ลูกค้าของคุณคือใคร? พวกเขาค้นหาอะไร? ต้องการอะไร? แล้วจึงวางกลยุทธ์เนื้อหาและคำค้น (Keywords) ให้สอดคล้องกับความต้องการเหล่านั้น เช่น คุณขายอุปกรณ์ทำอาหาร เครื่องครัวต่าง ๆ คุณจำเป็นต้องศึกษาว่ากลุ่มลูกค้าของคุณจะเป็นคนประเภทไหนในเชิงประชากรศาสตร์ การศึกษาข้อมูลของกลุ่มลูกค้าหลักจะช่วยให้คุณนำข้อมูลที่ได้มาต่อยอดในการทำ SEO Marketing ได้ดียิ่งขึ้น

2. Keyword Research

การเลือกคำค้น (Keyword) ที่กลุ่มเป้าหมายใช้จริงๆ เป็นหัวใจของ SEO Marketing ซึ่งคำค้นดังกล่าวควรมีลักษณะดังนี้

  • มีปริมาณการค้นหาที่เหมาะสม

  • มีความเกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการ

  • ใช้คำที่ไม่ยากจนเกินไป จะมีโอกาสติดอันดับได้จริง

3. การสร้างเนื้อหาคุณภาพ (Content Marketing)

SEO Marketing ต้องพึ่งพาเนื้อหาที่มีคุณค่า เช่น บทความให้ความรู้ มีคู่มือการใช้งาน มีการรีวิวสินค้าเพิ่มความน่าเชื่อถือ มีการเพิ่มคำถามอื่น ๆ ที่พบบ่อย ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับ แต่ยังสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าได้อีกด้วย

4. On-page Optimization

การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการค้นหา เช่น ตั้งชื่อ Title และ Meta Description ให้ดึงดูด ใช้คำหลักอย่างเหมาะสมในเนื้อหา ใช้หัวข้อย่อย (H1, H2, H3) อย่างเป็นระเบียบ และอย่าลืมใส่ภาพพร้อมคำอธิบาย (Alt text) จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

5. Technical SEO

  1. ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็ว (Page Speed) ความเร็วเว็บไซต์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้จัดอันดับ และผู้ใช้งานก็ไม่ชอบเว็บที่โหลดช้า สิ่งที่ควรทำคือ บีบอัดรูปภาพให้ขนาดเล็กลง (เช่น ใช้ WebP) ใช้ CDN (Content Delivery Network) ใช้การแคช (Browser Caching) ลดโค้ดไม่จำเป็น (Minify CSS, JS, HTML)

  1. ทำให้เว็บไซต์เป็นมิตรกับมือถือ (Mobile-Friendly) ปัจจุบัน Google ใช้ Mobile-First Indexing คือให้ความสำคัญกับเวอร์ชันมือถือก่อน สามารถเช็กได้ที่ Mobile-Friendly Test ของ Google

  1. ใช้ HTTPS (SSL Certificate) เว็บไซต์ที่ไม่มี SSL (ไม่มี https://) จะถูก Google มองว่าไม่ปลอดภัย จึงแนะนำให้ติดตั้ง SSL Certificate ให้เรียบร้อย และ Redirect จาก http → https ทุกหน้า

  1. จัดโครงสร้าง URL ให้เป็นมิตร ทำให้อ่านง่าย เช่น yourdomain.com/seo-guide ดีกว่า yourdomain.com/page?id=123 ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง และไม่มีอักขระพิเศษแปลก ๆ

  1. สร้าง Sitemap.xml และ Robots.txt โดย Sitemap.xml ช่วยให้ Google เห็นโครงสร้างเว็บไซต์และหน้าใหม่ ๆ และ Robots.txt บอก Google ว่าส่วนไหนไม่ต้องเข้าถึง เช่น /admin/

  1. แก้ปัญหา Broken Links (ลิงก์เสีย) ลิงก์ที่กดแล้วเจอ 404 หรือ Error จะทำให้ Google และผู้ใช้งานมองว่าเว็บไม่น่าเชื่อถือ

  1.  ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) ใช้การจัดลำดับหัวข้อ (เช่น H1, H2, H3) ทำให้ลิงก์ภายใน (Internal Links) เชื่อมโยงแต่ละหน้ากันอย่างมีเหตุผล ใช้ Breadcrumbs เพื่อช่วยให้ผู้ใช้นำทางได้ง่าย

  1. ใช้ Schema Markup (Structured Data) Schema คือโค้ดพิเศษที่ช่วยให้ Google เข้าใจข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณ เช่น รีวิว สินค้า อีเว้นท์

  1. ป้องกันเนื้อหาซ้ำ (Duplicate Content) Google ไม่ชอบเนื้อหาที่ซ้ำกันหลายหน้าในเว็บไซต์เดียว

  1. ตรวจสอบ Crawl Errors และ Indexing Google ซึ่งอาจเข้าไม่ถึงบางหน้า หรือมีปัญหาในการจัดทำดัชนี (index)

6. Link Building

คือกระบวนการสร้างลิงก์ (Backlinks) จากเว็บไซต์ภายนอกที่ลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณ โดยมีเป้าหมายดังนี้

  • เพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ในสายตา Google

  • เพิ่มทราฟฟิกจากเว็บไซต์อื่นมายังของคุณ

  • ส่งผลทางบวกต่ออันดับ SEO

ลิงก์ที่มีคุณภาพสูงจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จะช่วยเพิ่ม “Domain Authority” และโอกาสในการติดอันดับที่ดีบนหน้าแรกของ Google

วิธีการทำ Link Building อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง ที่มีประโยชน์และน่าสนใจ เพื่อให้คนอื่นอยากแชร์
  • ติดต่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนลิงก์หรือขอลิงก์กลับ
  • ใช้เทคนิค Guest Posting ในเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อสร้างลิงก์คุณภาพ
  • โพสต์บนเว็บไซต์ที่มี DA สูง และเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

7. Conversion Optimization

SEO ไม่ได้จบแค่การได้คนเข้ามาเยี่ยมชม แต่ต้องเปลี่ยนคนดูให้กลายเป็นลูกค้า  Conversion Optimization หรือในชื่อเต็มว่า Conversion Rate Optimization (CRO) คือกระบวนการวิเคราะห์และปรับปรุงเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page เพื่อเพิ่มอัตราการ “แปลง” ผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้า, ผู้ติดตาม, หรือกระทำเป้าหมายที่เราต้องการ เช่น กรอกฟอร์ม, สมัครสมาชิก, ซื้อสินค้า ฯลฯ

หรือก็คือการทำให้ "คนที่เข้ามาในเว็บไซต์" ทำสิ่งที่เราต้องการ "มากขึ้น" โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์

ตัวอย่างเช่น
  • การกดปุ่ม “สั่งซื้อ”

  • การกรอกอีเมลเพื่อสมัครรับข่าวสาร

  • การดาวน์โหลดเอกสาร

  • การจองบริการ

  • การคลิกโทรออกผ่านมือถือ

สามารถทำได้ด้วยเทคนิคต่างๆ ดังนี้
  • วางปุ่ม Call to Action (CTA) อย่างเหมาะสม

  • ใช้ข้อความและดีไซน์ที่ชักจูง

  • สร้างความเชื่อถือผ่านรีวิวและคำแนะนำ

โดยสรุป SEO Marketing คือการตลาดที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล

หากต้องการให้ธุรกิจเติบโตบนโลกออนไลน์แบบไม่ต้องพึ่งพาโฆษณาตลอดเวลา SEO Marketing คือตัวเลือกที่คุ้มค่าและยั่งยืนที่สุด การลงทุนใน SEO อาจไม่เห็นผลทันทีในวันแรก แต่จะสร้างฐานลูกค้าและความน่าเชื่อถือในระยะยาวได้อย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น หากมีตัวช่วยอย่าง บริการทำ SEO การันตีติดหน้า 1 จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพและได้ผลสำเร็จมากขึ้น

contact-us
พูดคุย รับคำปรึกษา จากทีมงานของเราได้ฟรี!
(ตอบกลับภายใน 1 ชั่วโมง)
1. รับฟังปัญหาและความจำเป็นทางธุรกิจของคุณ
2. นำเสนอแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุม
3. ดำเนินขั้นตอนการตลาดพร้อมเริ่มผลลัพธ์ใน 24 ชั่วโมง
4. วัดผลแคมเปญและปรับปรุงต่อเนื่อง
contact-us