"เตรียมเว็บไซต์สู่อนาคต วิธีประเมินความพร้อมสำหรับยุค SGE ของ Google "
ในเมื่อโลกแห่งเทคโนโลยีได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง AI และ SGE แล้ว สำหรับนักธุรกิจนักทำเว็บไซต์จึงควรรับมือเตรียมพร้อมกับรวบรวมวิธีการตรวจสอบ เช็กง่าย ๆ ว่าเว็บไซต์พร้อมสำหรับ SGE หรือยัง พร้อมแนววิเคราะห์และการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นสำหรับยุค AI Search
สามารถตรวจสอบด้วยตนเอง ตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1. ตรวจสอบการแสดงผลใน SGE ด้วยตนเอง ให้ไปที่ >> https://labs.google.com/search ลงชื่อเข้าใช้งาน (เฉพาะผู้ที่อยู่ในประเทศที่รองรับ เช่น สหรัฐอเมริกา) ค้นหาคำหลัก (Keywords) ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ ดูว่าเว็บไซต์ของคุณปรากฏในกล่อง AI ที่แสดงผลหรือไม่ 2. วิเคราะห์คุณสมบัติของเนื้อหาบนเว็บไซต์ เนื้อหาที่รองรับ SGE มักจะมีลักษณะดังนี้
ตอบคำถามได้ตรงจุด (Answer-focused) เช่น มีการใช้คำถาม-คำตอบในบทความ ใช้โครงสร้าง HTML ที่เป็นมิตรกับ AI เช่น Header Tags (H1, H2, H3) ข้อมูลที่อัปเดตและน่าเชื่อถือ มี Schema Markup (Structured Data) เช่น FAQPage, HowTo, Article วิธีตรวจสอบมีดังนี้ ใช้เครื่องมือตรวจ Schema เช่น https://validator.schema.org/ ตรวจสอบบทความว่ามีการจัดแบ่งหัวข้อชัดเจนหรือไม่ ใช้เครื่องมือ SEO Audit อย่าง Ahrefs, Semrush หรือ Screaming Frog วิเคราะห์โครงสร้าง HTML 3. ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณมี E-E-A-T หรือไม่ E-E-A-T คือหลักการที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพของเนื้อหาในปัจจุบัน:
Experience (ประสบการณ์ของผู้เขียน) Expertise (ความเชี่ยวชาญ) Authoritativeness (ความน่าเชื่อถือของผู้เขียน) Trustworthiness (ความถูกต้องของข้อมูล) วิธีวิเคราะห์ มีชื่อผู้เขียนหรือไม่? มีแหล่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้หรือไม่? มีหน้า “เกี่ยวกับเรา” หรือข้อมูลติดต่อที่ชัดเจนหรือไม่? SGE จะเลือกข้อมูลจากแหล่งที่ดู “น่าเชื่อถือ” มากกว่าข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงหรือไม่มีเจ้าของชัดเจน
4. ดูข้อมูลจาก Google Search Console ในช่วงนี้ Google ยังไม่แสดงข้อมูล "SGE Ranking" โดยตรงใน Google Search Console แต่สามารถใช้ข้อมูลได้ เช่น
Search Appearance > Rich Results Impressions and Clicks สำหรับบทความแบบ FAQ, How-to, Snippets เพื่อประเมินว่า Google เริ่มเข้าใจเนื้อหาคุณมากน้อยแค่ไหนหากบทความของคุณมี CTR สูงในกลุ่มคำถาม (question-based keywords) แปลว่า Google อาจพิจารณาเนื้อหาคุณสำหรับ SGE
5. ใช้เครื่องมือ AI เพื่อจำลอง SGE มีบางเครื่องมือที่เริ่มเลียนแบบพฤติกรรมของ SGE เช่น
Perplexity.ai You.com Bing AI Chat (Copilot) ลองใส่คำค้นหาในเครื่องมือเหล่านี้ เพื่อดูว่า AI สรุปข้อมูลจากเว็บไซต์ของคุณหรือไม่ หากใช่ แปลว่าโครงสร้างของเนื้อหานั้นเป็นมิตรกับ AI ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจเหมาะกับ SGE ด้วย
เคล็ดลับการปรับเว็บไซต์ให้พร้อมสำหรับ SGE 1. สร้างคอนเทนต์ที่ตอบคำถามอย่างแท้จริง (Answer-centric Content) AI ของ Google มีเป้าหมายชัดเจนคือ “หาคำตอบที่ดีที่สุด” ให้กับผู้ใช้ ดังนั้นคุณต้อง:
วิเคราะห์ Intent ของคำค้นหาอย่างละเอียด เขียนเนื้อหาให้ตอบตรงประเด็นตั้งแต่ย่อหน้าแรก ใช้ภาษาธรรมดา ไม่ซับซ้อน แต่ยังมีความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น หากคำค้นคือ "วิตามิน C มีประโยชน์อะไร" อย่าเริ่มด้วยประวัติของวิตามิน C แต่ให้ตอบทันทีว่า “วิตามินซีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และต้านอนุมูลอิสระ”
2. ปรับโครงสร้างเนื้อหาให้เป็นมิตรกับ AI AI ชอบสิ่งที่มี “โครงสร้าง” เพราะมันทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น Google มักเลือกย่อหน้าที่มี 2-3 บรรทัด และใช้ประโยคเรียบง่ายไปแสดงในกล่อง SGE
สิ่งที่ควรทำ ได้แก่
ใช้ Heading อย่างถูกต้อง: H1, H2, H3 แบ่งย่อหน้าสั้น ๆ ใช้ Bullet Point และ Numbered List ใส่ Table หากเหมาะสม สรุปตอนท้ายบทความ
3. ใส่ Structured Data (Schema Markup) Structured Data คือโค้ดที่ช่วยให้ Google เข้าใจประเภทของเนื้อหาบนเว็บไซต์ เช่น บทความ, FAQ, HowTo, Product ฯลฯ
SGE ใช้ข้อมูลจาก Schema เพื่อดึงคำตอบที่แม่นยำที่สุด เช่น
FAQPage → คำถาม-คำตอบ HowTo → ขั้นตอนการทำสิ่งต่าง ๆ Article → บทความข่าว หรือข้อมูลเชิงลึก เครื่องมือที่แนะนำ
Schema.org – ดูรูปแบบที่ Google รองรับGoogle Rich Results Test – ทดสอบว่าหน้าเว็บของคุณมี Schema ถูกต้องไหม 4. เสริมความน่าเชื่อถือด้วย E-E-A-T EEAT ย่อมาจาก Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness เป็นหลักการที่ Google ใช้ ตัดสินว่าเนื้อหานั้นเชื่อถือได้หรือไม่ โดยเฉพาะในหมวด YMYL (Your Money Your Life) เช่น สุขภาพ การเงิน การศึกษา ฯลฯ
ดังนั้นสิ่งที่ควรปรับคือ
ใส่ชื่อผู้เขียน และประวัติสั้น ๆ ของเขา อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น งานวิจัย, หน่วยงานรัฐ มีหน้า About / Contact / Privacy Policy ครบถ้วน ใส่วันที่เผยแพร่ และวันที่อัปเดตเนื้อหา 5. ตอบคำถามแบบ Q&A และใช้ Section-based Content หลายคำค้นใน SGE ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่มีรูปแบบ “คำถาม-คำตอบ” หรือแยกเป็นหัวข้อย่อยชัดเจน
ตัวอย่างรูปแบบที่ได้ผล
## คำถาม: การออกกำลังกายแบบ HIIT คืออะไร?
HIIT (High-Intensity Interval Training) คือการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงสลับกับช่วงพักในเวลาสั้น ๆ…
หรือใช้รูปแบบ “Top 5...” เช่น
## 5 วิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลเร็วที่สุด
1. คุมอาหารแบบ Low-carb
2. เดินวันละ 10,000 ก้าว
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ...
6. เพิ่มความเร็วและรองรับมือถือ (Core Web Vitals) แม้ AI จะเน้นเนื้อหา แต่ Google ยังให้ความสำคัญกับ คุณภาพด้านเทคนิคของเว็บไซต์ เช่น
Page Speed (LCP < 2.5 วินาที) Mobile-Friendly ใช้ HTTPS ไม่มีโฆษณาบดบัง หรือ UX ที่ทำให้ผู้ใช้สับสน แนะนำให้ทดสอบ
PageSpeed Insights Google Mobile-Friendly Test 7. ใช้ภาษาธรรมชาติ ไม่แข็งเหมือน “เขียนเพื่อ SEO” AI ของ SGE ไม่ได้มองแค่ “คีย์เวิร์ด” แต่ดูว่าเขียนอย่างเข้าใจจริงหรือเปล่า
หลีกเลี่ยงการยัดคำค้นลงไปเยอะเกิน ใช้ประโยคที่ไหลลื่น อ่านเหมือนคนจริงเขียน เขียนด้วย “น้ำเสียงของผู้เชี่ยวชาญที่อยากช่วยผู้อ่าน” เครื่องมือที่ช่วยเตรียมเว็บไซต์ให้พร้อมสำหรับ SGE
สรุปได้ว่า การวิเคราะห์ว่าเว็บไซต์รองรับ SGE หรือยังไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากเข้าใจหลักการทำงานของ AI และการจัดโครงสร้างเนื้อหาให้ถูกต้องตามหลัก SEO ที่ทันสมัย
สิ่งที่ควรจำไว้เสมอคือ เว็บไซต์ที่ "เป็นมิตรกับ AI" จะมีโอกาสสูงในการแสดงผลใน SGE และสามารถดึงดูดทราฟฟิกได้โดยไม่ต้องพึ่งเพียงตำแหน่งอันดับใน Google แบบเดิมอีกต่อไป