ทำไม Off-page SEO ถึงสำคัญ? เทคนิคดันเว็บให้โตแบบยั่งยืน

May 28, 2025
เขียนโดย
Guitar
ทำไม Off-page SEO ถึงสำคัญ? เทคนิคดันเว็บให้โตแบบยั่งยืน

ถ้าการทำ On-page SEO คือการจัดหน้าร้านให้ดูดี ใช้งานง่าย และมีข้อมูลครบถ้วนแล้ว Off-page SEO ก็คือ “เสียงลือเสียงเล่าอ้าง” ที่ลูกค้า คนในวงการ หรือแม้แต่เว็บไซต์อื่น ๆ พูดถึงร้านของคุณบนโลกภายนอก และเสียงเหล่านี้แหละ ที่มีพลังอย่างมากในการผลักดันอันดับเว็บไซต์ให้ขึ้นไปติดหน้าแรกบน Google

แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างหรือคอนเทนต์ในเว็บไซต์โดยตรง แต่ Off-page SEO คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ประเมินความน่าเชื่อถือของเว็บคุณในสายตาผู้ใช้งานและบ็อตของ Google เอง

Off-page SEO เพิ่มพลังให้เว็บไซต์จากภายนอก

การทำ SEO ไม่ได้จบแค่ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ดี (On-page SEO) แต่ยังมีอีกส่วนที่ทรงพลังไม่แพ้กัน นั่นคือ Off-page SEO หรือการสร้างความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์ “จากภายนอก” ซึ่งเปรียบเสมือน “เสียงลือเสียงเล่าอ้าง” ที่ทำให้เว็บไซต์กลายเป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือในสายตาของ Google และกลุ่มเป้าหมาย

Off-page SEO คือกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น นอกเว็บไซต์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ เพิ่มจำนวนลิงก์ (Backlinks) และสร้างสัญญาณบวก (SEO Signals) ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์บน Google

ถ้าคิดแบบง่าย ๆ ก็เปรียบได้ว่า,,,

On-page คือการปรับเว็บไซต์ให้ดี

Off-page คือการทำให้ คนอื่นพูดถึงเว็บไซต์ในทางบวก

Off-page SEO เปรียบเหมือน “กระแสปากต่อปาก” ของร้าน

ถ้าร้านของคุณจัดวางสินค้าเป๊ะ (On-page SEO) และสร้างร้านโครงสร้างดีมาก (Technical SEO)
แต่… ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครพูดถึง

Off-page SEO ก็คือการสร้าง ความน่าเชื่อถือ และ ชื่อเสียงของร้าน ผ่านการพูดถึงจากภายนอก
Google เองก็ใช้สิ่งนี้เป็นหนึ่งในตัววัดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ด้วย

Off-page SEO คือการสร้างชื่อเสียงนอกร้าน เพื่อให้คนกลับมาอุดหนุนร้านเรา

หาก On-page SEO คือการจัดร้านให้ดี Off-page SEO ก็คือการทำให้ “ร้านของเรากลายเป็นที่พูดถึง” ยิ่งมีคนลิงก์ มีคนแนะนำ มีคนบอกต่อมากเท่าไร Google ก็ยิ่งมั่นใจว่า “เว็บไซต์ของคุณมีคุณค่า” และเหมาะที่จะติดอันดับสูงไปด้วยนั่นเอง

ความสำคัญของ Off-page SEO ที่ไม่ควรมองข้าม

Google พยายามประเมินว่าเว็บไซต์ไหนควรค่าแก่การติดอันดับต้น ๆ โดยไม่ดูแค่สิ่งที่คุณ “พูดถึงตัวเอง” (On-page) เท่านั้น แต่ยังดูว่า “คนอื่นพูดถึงคุณอย่างไร” ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของแนวคิดว่า Off-page SEO เปรียบเสมือนกับ “การแนะนำจากคนอื่น” (Digital Recommendation)

การมี Off-page SEO ที่แข็งแกร่งจะช่วย…

  • เพิ่ม ความน่าเชื่อถือ (Domain Authority) ของเว็บไซต์
  • เพิ่ม อันดับในการค้นหา อย่างยั่งยืน
  • ขยายฐานผู้ชมจากหลากหลายช่องทาง
  • ช่วยสร้าง Brand Awareness และ ความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน

องค์ประกอบหลักของ Off-page SEO

1. Backlink: ลิงก์คุณภาพคือหัวใจ

การมีเว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณ เป็นเสมือนเสียงสนับสนุนว่า “เว็บไซต์นี้มีคุณค่า” โดย Google ให้ความสำคัญกับ คุณภาพของลิงก์ มากกว่าปริมาณ

ประเภทของ Backlink ที่ควรมี

  • ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูง เช่น เว็บข่าว, องค์กร, หน่วยงานราชการ

  • ลิงก์จากเว็บไซต์ในสายงานเดียวกัน เพื่อความเกี่ยวข้อง (Relevance)

  • ลิงก์แบบ Natural Link ที่เกิดขึ้นเพราะเนื้อหาของคุณมีคุณภาพจริง ไม่ได้บังคับหรือซื้อ

คำแนะนำ: ใช้เครื่องมืออย่าง Ahrefs, Moz หรือ SEMrush เพื่อตรวจสอบคุณภาพของ Backlink

2. Social Signal: พลังจากการแชร์บนโซเชียลมีเดีย

แม้ Google จะไม่ใช้ Social Share เป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับโดยตรง แต่เนื้อหาที่ได้รับความนิยมบนโซเชียลมักจะได้รับลิงก์ต่อเนื่องจากเว็บไซต์อื่น ๆ เช่น บล็อกเกอร์นำไปพูดถึง หรือสื่อออนไลน์นำไปอ้างอิง จึงช่วยเพิ่มโอกาสได้ Backlink ทางอ้อม

แพลตฟอร์มที่ควรใช้

  • Facebook, X (Twitter), LinkedIn, TikTok

  • กลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม

  • Reddit หรือ Pantip สำหรับการสร้าง Engagement แบบ Organic

3. Brand Mention: การถูกกล่าวถึงโดยไม่จำเป็นต้องมีลิงก์

Google สามารถจับได้ว่าเว็บไซต์ของคุณถูกพูดถึงโดยใคร ที่ไหน แม้จะไม่มีลิงก์ก็ตาม ซึ่งการถูกพูดถึงในทางบวกจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือก็ช่วยเพิ่ม “ความน่าเชื่อถือ” ให้กับแบรนด์ของคุณได้เช่นกัน

ตัวอย่างเช่น

  • มีคนรีวิวสินค้าหรือบริการของคุณในเว็บไซต์บล็อกหรือพันทิป

  • สื่อหรือพอดแคสต์พูดถึงชื่อแบรนด์ของคุณ

4. Local SEO และ Business Listing

สำหรับธุรกิจท้องถิ่น การลงทะเบียนในเว็บไซต์ Directory ต่าง ๆ ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาแบบ Local Pack เช่น Google Maps หรือหน้าผลลัพธ์ที่แสดงร้านค้าใกล้ผู้ใช้งาน

ตัวอย่าง Directory ที่แนะนำในไทย

  • Google Business Profile

  • Wongnai

  • ThaiFranchise

  • YellowPages

5. Guest Posting และ Content Collaboration

การเขียนบทความเพื่อลงบนเว็บไซต์อื่น (Guest Post) หรือการร่วมมือทำเนื้อหากับเว็บไซต์พันธมิตร คือวิธีการสร้างลิงก์และสร้างตัวตนที่มีประสิทธิภาพ เช่น

  • เขียนบทความ SEO ลงบนเว็บการตลาดชื่อดัง

  • เข้าร่วมเป็นผู้เขียนประจำของเว็บไซต์ข่าวในอุตสาหกรรม

  • ร่วมมือกับ Influencer เพื่อแชร์เนื้อหา

ข้อดีคือคุณได้ทั้ง ลิงก์คุณภาพ, Brand Authority, และ การเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่

เทคนิคทำ Off-page SEO ให้ได้ผล

1. สร้าง Backlink อย่างมีคุณภาพ (ไม่ใช่แค่ปริมาณ)

ไม่ใช่ว่าลิงก์จากทุกที่จะดีต่อ SEO เท่ากัน ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูง และเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณจะมีน้ำหนักมากกว่า เช่น หากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพ การได้ลิงก์จากเว็บโรงพยาบาลหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ย่อมมีผลดีต่ออันดับมากกว่าลิงก์จากเว็บทั่วไป

แนะนำให้ใช้เครื่องมืออย่าง Ahrefs หรือ Moz เพื่อตรวจสอบคุณภาพของเว็บไซต์ก่อนจะทำ Outreach หรือ Guest Post

2. ทำ Guest Posting บนเว็บไซต์พันธมิตร

Guest Post คือการเขียนบทความไปลงบนเว็บไซต์อื่น พร้อมลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของคุณ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพ แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการ เช่น ถ้าคุณเชี่ยวชาญ SEO การลงบทความในเว็บไซต์การตลาดดิจิทัลชื่อดังจะสร้างเครดิตในระยะยาว

3. แชร์เนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดีย

แม้ Google จะระบุว่า Social Signal (ยอดไลก์ แชร์) ไม่ใช่ปัจจัยตรงในอันดับ SEO แต่การที่เนื้อหาของคุณถูกแชร์และได้รับความนิยมบน Facebook, Twitter, LinkedIn หรือ TikTok ก็เป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งมีผลต่ออัตราการคลิก (CTR), เวลาอยู่บนเว็บ และ Bounce Rate ซึ่งล้วนเป็นตัวแปรทางอ้อมที่ Google พิจารณา

4. ลงทะเบียนเว็บไซต์ใน Local Directory หรือ Business Listing

หากคุณมีธุรกิจท้องถิ่น เช่น ร้านอาหาร คลินิก หรือบริษัทบริการในประเทศ ควรลงข้อมูลบน Google Business Profile, Wongnai, ThaiFranchise, หรือเว็บไซต์ directory อื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกค้นหาในผลลัพธ์แบบ Local SEO

ข้อควรระวังในการทำ Off-page SEO

  • หลีกเลี่ยงการซื้อ Backlink จากเว็บไซต์ไร้คุณภาพ เพราะหาก Google ตรวจพบว่าคุณพยายาม “ปั่นลิงก์” ด้วยวิธีที่ผิดกฎ อาจส่งผลให้เว็บไซต์ถูกลงโทษ (Penalty) และอันดับตกทันที

  • อย่าใช้ Anchor Text เดิมซ้ำ ๆ ในทุกลิงก์ เพราะจะดูเป็นสแปม ควรมีความหลากหลาย เช่น ใช้เป็นชื่อแบรนด์, URL ตรง, หรือคำที่เกี่ยวข้อง

  • เลือกเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพราะลิงก์ที่ไม่มีบริบทหรือความสัมพันธ์อาจไม่มีคุณค่าเท่าที่ควร

On-page และ Off-page SEO ต้องทำควบคู่กัน

On-page SEO คือรากฐานของเว็บไซต์ ส่วน Off-page SEO คือการส่งสัญญาณภายนอกเพื่อบอกว่า “เว็บไซต์นี้มีคุณค่า” การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องทำควบคู่กันทั้งสองด้าน

หากคุณต้องการเริ่มต้นวางกลยุทธ์ SEO อย่างเป็นระบบ สามารถดูบริการ SEO เพิ่มเติมได้ที่ บริการ SEO จากผู้เชี่ยวชาญ

Off-page SEO คือการสร้าง “เสียงภายนอก” ที่ผลักดันให้คุณถูกพบเห็น

ในโลกที่มีเว็บไซต์นับล้าน Off-page SEO คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ “โดดเด่น” ในสายตาของ Google และผู้ใช้งานจริง ไม่ใช่แค่การพึ่งคีย์เวิร์ดหรือบทความที่ดีเท่านั้น แต่คือการสร้างสายสัมพันธ์ ความน่าเชื่อถือ และการพูดถึงอย่างต่อเนื่องจากภายนอก

ถ้าคุณมี On-page ที่ดีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะผลักดันแบรนด์คุณให้ไปไกลยิ่งขึ้นด้วยพลังของ Off-page SEO

contact-us
พูดคุย รับคำปรึกษา จากทีมงานของเราได้ฟรี!
(ตอบกลับภายใน 1 ชั่วโมง)
1. รับฟังปัญหาและความจำเป็นทางธุรกิจของคุณ
2. นำเสนอแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุม
3. ดำเนินขั้นตอนการตลาดพร้อมเริ่มผลลัพธ์ใน 24 ชั่วโมง
4. วัดผลแคมเปญและปรับปรุงต่อเนื่อง
contact-us