ทำไม Off-page SEO ถึงสำคัญ? เทคนิคดันเว็บให้โตแบบยั่งยืน

August 14, 2025
เขียนโดย
Guitar
ทำไม Off-page SEO ถึงสำคัญ? เทคนิคดันเว็บให้โตแบบยั่งยืน

ถ้า On-Page SEO คือการจัดระเบียบและตกแต่ง ‘หน้าร้าน’ (เว็บไซต์) ของคุณให้สวยงามและมีข้อมูลครบถ้วน Off-Page SEO ก็เปรียบเสมือน ‘ชื่อเสียงและคำบอกต่อ’ ที่เกิดขึ้นนอกร้านของคุณ

มันคือทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายนอกเว็บไซต์ที่ช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการที่เว็บไซต์อื่นอ้างอิงถึงคุณ (Backlink), การถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดีย, หรือการรีวิวจากลูกค้า สิ่งเหล่านี้คือ ‘คะแนนความไว้วางใจ’ ที่ Google นำมาใช้ประเมินว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือในวงกว้างมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ

Off-page SEO เพิ่มพลังให้เว็บไซต์จากภายนอก

การทำ SEO แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักที่ทำงานร่วมกัน:

  • On-Page SEO: คือการปรับปรุงทุกอย่าง ‘ภายใน’ เว็บไซต์ของคุณให้มีคุณภาพสูงสุด
  • Off-Page SEO: คือการสร้างชื่อเสียงและทำให้ ‘คนอื่น’ พูดถึงเว็บไซต์ของคุณในเชิงบวก

Off-Page SEO คือชุดของกิจกรรมที่เกิดขึ้นนอกเว็บไซต์ทั้งหมด เพื่อสร้าง ‘สัญญาณความน่าเชื่อถือ’ (Trust Signals) กลับมาที่เว็บของคุณ สัญญาณเหล่านี้อาจมาในรูปแบบของ:

  • Backlinks: การที่เว็บไซต์อื่นลิงก์มาหาคุณ ซึ่งเปรียบเสมือนการโหวตให้คะแนนความน่าเชื่อถือ
  • Brand Mentions: การถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ข่าว
  • Customer Reviews: รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

Google จะใช้สัญญาณเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ได้ดีแค่ ‘ในบ้าน’ แต่ยังเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือในโลกภายนอก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการจัดอันดับ

Off-page SEO เปรียบเหมือน “กระแสปากต่อปาก” ของร้าน

ถ้าร้านของคุณจัดวางสินค้าเป๊ะ (On-page SEO) และสร้างร้านโครงสร้างดีมาก (Technical SEO)
แต่… ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครพูดถึง

Off-page SEO ก็คือการสร้าง ความน่าเชื่อถือ และ ชื่อเสียงของร้าน ผ่านการพูดถึงจากภายนอก
Google เองก็ใช้สิ่งนี้เป็นหนึ่งในตัววัดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ด้วย

Off-page SEO คือการสร้างชื่อเสียงนอกร้าน เพื่อให้คนกลับมาอุดหนุนร้านเรา

หาก On-page SEO คือการจัดร้านให้ดี Off-page SEO ก็คือการทำให้ “ร้านของเรากลายเป็นที่พูดถึง” ยิ่งมีคนลิงก์ มีคนแนะนำ มีคนบอกต่อมากเท่าไร Google ก็ยิ่งมั่นใจว่า “เว็บไซต์ของคุณมีคุณค่า” และเหมาะที่จะติดอันดับสูงไปด้วยนั่นเอง

ความสำคัญของ Off-page SEO ที่ไม่ควรมองข้าม

หัวใจในการประเมินของ Google คือการหาว่าเว็บไซต์ใดควรค่าแก่ความไว้วางใจ โดยไม่ได้มองแค่สิ่งที่คุณ ‘บอกเกี่ยวกับตัวเอง’ (On-Page SEO) แต่ให้น้ำหนักกับสิ่งที่ ‘คนอื่นพูดถึงคุณ’ (Off-Page SEO) มากกว่า ดังนั้น Off-Page SEO จึงเปรียบเสมือน ‘การแนะนำแบบดิจิทัล’ (Digital Recommendation) ที่ทรงพลัง

การมี Off-page SEO ที่แข็งแกร่งจะช่วย…

  • เพิ่มความน่าเชื่อถือในระยะยาว (Domain Authority):สัญญาณบวกจากภายนอกช่วยเพิ่มค่าพลังหรือ ‘Authority’ ของโดเมนคุณ ทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
  • อันดับการค้นหาที่มั่นคงและยั่งยืน:เว็บไซต์ที่มี Off-Page SEO ที่ดีมักจะมีอันดับที่มั่นคงกว่าและทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมได้ดีกว่า
  • เพิ่มช่องทางการเข้าถึงและทราฟฟิก:Backlink หรือการถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดียไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อ SEO แต่ยังเป็นช่องทางนำผู้ใช้งานใหม่ๆ (Referral Traffic) เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณโดยตรง
  • สร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness):การปรากฏบนสื่อหรือเว็บไซต์อื่นช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง สร้างความคุ้นเคยและความไว้วางใจในสายตาของผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต

5 องค์ประกอบหลักของ Off-Page SEO ที่นักการตลาดต้องรู้

1. Backlinks: หัวใจสำคัญของคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ

การที่เว็บไซต์อื่นลิงก์มาหาคุณ (Backlink) คือเสียงสนับสนุนที่ทรงพลังที่สุดในสายตา Google โดยจะให้น้ำหนักกับ คุณภาพ ของลิงก์มากกว่าปริมาณ

ประเภทของ Backlink คุณภาพสูง:

  • ลิงก์จากเว็บที่มี Authority สูง (เช่น สื่อข่าว, มหาวิทยาลัย, หน่วยงานราชการ)
  • ลิงก์จากเว็บในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อสร้างความเกี่ยวข้อง (Relevance)
  • ลิงก์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (Natural Link) จากเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมของคุณ
Pro-Tip: ใช้เครื่องมืออย่าง Ahrefs หรือ SEMrush เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์โปรไฟล์ Backlink ของคุณและคู่แข่ง

2. Social Signals: พลังทางอ้อมจากโซเชียลมีเดีย

แม้จำนวนไลค์หรือแชร์จะไม่ใช่ปัจจัยจัดอันดับโดยตรง แต่คอนเทนต์ที่กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมักจะถูกนำไปอ้างอิงต่อโดยบล็อกเกอร์หรือสื่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlink คุณภาพในท้ายที่สุด

แพลตฟอร์มที่ควรใช้

  • Facebook, X (Twitter), LinkedIn, TikTok

  • กลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม

  • Reddit หรือ Pantip สำหรับการสร้าง Engagement แบบ Organic

3. Brand Mentions: การถูกพูดถึงแม้ไม่มีลิงก์

Google สามารถตรวจจับการกล่าวถึงชื่อแบรนด์ของคุณบนโลกออนไลน์ได้ แม้จะไม่มีการลิงก์กลับมาก็ตาม การถูกพูดถึงในเชิงบวกบนเว็บไซต์, พอดแคสต์, หรือฟอรั่มที่น่าเชื่อถือ จะช่วยเสริมสร้าง Authority และความไว้วางใจให้กับแบรนด์ของคุณ

ตัวอย่างเช่น

  • มีคนรีวิวสินค้าหรือบริการของคุณในเว็บไซต์บล็อกหรือพันทิป

  • สื่อหรือพอดแคสต์พูดถึงชื่อแบรนด์ของคุณ

4. Local SEO และ Business Listing

สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือให้บริการในพื้นที่ การลงทะเบียนข้อมูลใน Directory ออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ธุรกิจของคุณปรากฏในผลการค้นหาแบบ Local Pack (เช่น บน Google Maps)

ตัวอย่าง Directory ที่แนะนำในไทย

  • Google Business Profile

  • Wongnai

  • ThaiFranchise

  • YellowPages

5. Guest Posting และ Content Collaboration

การเขียนบทความให้เว็บไซต์อื่น (Guest Posting) หรือการร่วมมือผลิตเนื้อหากับพาร์ทเนอร์ เป็นวิธีสร้าง Off-Page SEO ที่มีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์หลายต่อ

  • เขียนบทความ SEO ลงบนเว็บการตลาดชื่อดัง

  • เข้าร่วมเป็นผู้เขียนประจำของเว็บไซต์ข่าวในอุตสาหกรรม

  • ร่วมมือกับ Influencer เพื่อแชร์เนื้อหา

ข้อดีคือคุณได้ทั้ง ลิงก์คุณภาพ, Brand Authority, และ การเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่

เทคนิคทำ Off-page SEO ให้ได้ผล

1. สร้าง Backlink อย่างมีคุณภาพ (ไม่ใช่แค่ปริมาณ)

หัวใจของ Off-Page SEO คือ Backlink ที่มีคุณภาพ ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูง และมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ จะมีน้ำหนักมากกว่าลิงก์ทั่วไปนับร้อยลิงก์ เช่น เว็บไซต์สุขภาพที่ได้รับลิงก์จากโรงพยาบาล ย่อมมีพลังมากกว่าลิงก์จากเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง

2. ทำ Guest Posting บนเว็บไซต์พันธมิตร

การเขียนบทความที่มีประโยชน์ไปลงบนเว็บไซต์พันธมิตร (Guest Post) เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการ สร้างลิงก์คุณภาพ ควบคู่ไปกับการ สร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับแบรนด์ของคุณในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นๆ

3. แชร์เนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดีย

แม้ Google จะระบุว่า Social Signal (ยอดไลก์ แชร์) ไม่ใช่ปัจจัยตรงในอันดับ SEO แต่การที่เนื้อหาของคุณถูกแชร์และได้รับความนิยมบน Facebook, Twitter, LinkedIn หรือ TikTok ก็เป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งมีผลต่ออัตราการคลิก (CTR), เวลาอยู่บนเว็บ และ Bounce Rate ซึ่งล้วนเป็นตัวแปรทางอ้อมที่ Google พิจารณา

4. ลงทะเบียนเว็บไซต์ใน Local Directory หรือ Business Listing

หากคุณมีธุรกิจท้องถิ่น เช่น ร้านอาหาร คลินิก หรือบริษัทบริการในประเทศ ควรลงข้อมูลบน Google Business Profile, Wongnai, ThaiFranchise, หรือเว็บไซต์ directory อื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกค้นหาในผลลัพธ์แบบ Local SEO

ข้อควรระวังในการทำ Off-page SEO

  • หลีกเลี่ยงการสร้างลิงก์ที่ผิดธรรมชาติ (Unnatural Links)ห้ามซื้อ Backlink จากเว็บไซต์สแปมหรือฟาร์มลิงก์เด็ดขาด การพยายามสร้างลิงก์ด้วยวิธีที่ผิดปกติเพื่อหวังผลทางลัด หาก Google ตรวจพบ อาจนำไปสู่การลงโทษ (Google Penalty) ซึ่งจะทำให้อันดับเว็บไซต์ตกอย่างรุนแรง

  • กระจายการใช้ Anchor Text ให้หลากหลายการใช้ Anchor Text ที่เป็นคีย์เวิร์ดหลักคำเดิมซ้ำๆ ในทุกลิงก์ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการพยายามปั่นอันดับและดูไม่เป็นธรรมชาติ ควรสร้างความหลากหลายโดยใช้ทั้งชื่อแบรนด์, URL ของหน้าเว็บ, หรือคำที่เกี่ยวข้องอื่นๆ (เช่น ‘คลิกที่นี่’)

  • ให้ความสำคัญกับความเกี่ยวข้อง (Relevance is Key)Backlink จะมีพลังสูงสุดก็ต่อเมื่อมาจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยอาจแทบไม่มีน้ำหนักในสายตาของ Google หรือในบางกรณีอาจถูกมองว่าเป็นสแปมได้

On-page และ Off-page SEO ต้องทำควบคู่กัน

On-page SEO คือรากฐานของเว็บไซต์ ส่วน Off-page SEO คือการส่งสัญญาณภายนอกเพื่อบอกว่า “เว็บไซต์นี้มีคุณค่า” การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องทำควบคู่กันทั้งสองด้าน

หากคุณต้องการเริ่มต้นวางกลยุทธ์ SEO อย่างเป็นระบบ สามารถดูบริการ SEO เพิ่มเติมได้ที่ บริการ SEO จากผู้เชี่ยวชาญ

Off-page SEO คือการสร้าง “เสียงภายนอก” ที่ผลักดันให้คุณถูกพบเห็น

ในโลกที่มีเว็บไซต์นับล้าน Off-page SEO คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ “โดดเด่น” ในสายตาของ Google และผู้ใช้งานจริง ไม่ใช่แค่การพึ่งคีย์เวิร์ดหรือบทความที่ดีเท่านั้น แต่คือการสร้างสายสัมพันธ์ ความน่าเชื่อถือ และการพูดถึงอย่างต่อเนื่องจากภายนอก

ถ้าคุณมี On-page ที่ดีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะผลักดันแบรนด์คุณให้ไปไกลยิ่งขึ้นด้วยพลังของ Off-page SEO

contact-us
พูดคุย รับคำปรึกษา จากทีมงานของเราได้ฟรี!
(ตอบกลับภายใน 1 ชั่วโมง)
1. รับฟังปัญหาและความจำเป็นทางธุรกิจของคุณ
2. นำเสนอแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุม
3. ดำเนินขั้นตอนการตลาดพร้อมเริ่มผลลัพธ์ใน 24 ชั่วโมง
4. วัดผลแคมเปญและปรับปรุงต่อเนื่อง
contact-us